พระมหาธาตุเจดีย์โลกะวิทู (โม๊ผะโด๊ะ) มีประวัติความเป็นมาพอสังเขปดังนี้ ขณะที่หลวงปูครูบาชัยยะวงศาพัฒนาหรือครูบาวงศ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ ในช่วงที่ท่านกำลังอาพาธ หลวงปู่ได้พูดถึงเรื่องราวต่างๆที่ท่านได้ไปธุดงค์ แต่มีอยู่ที่หนึ่งที่หลวงปู่ได้ปรารภถึงบ่อยครั้ง และจะกลับไปบูรณะสถานที่แห่งนั้น ซึ่งหลวงปู่บอกว่าเป็นสถานที่สำคัญ ที่เจอพระเจ้าอโศกมหาราชเคยสร้างเจดีย์ไว้ก่อนแล้ว ในขณะนั้นคณะศิษยานุศิษย์ของท่าก็ได้ทำเรื่องขอเฮลิคอปเตอร์จากกองทัพภาคที่ 3 เพื่อจะนำหลวงปู่ไปยังสถานที่ดังกล่าว คือ วัดบ้านโค๊พะโด๊ะ หมู่ที่ 6 ตำบลแม่ตื่น อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถพาหลวงปู่ไปได้เนื่องจากอาพาธหนัก จึงต้องไปรักษาตัวที่ห้องไอซียู โณงพยาบาลมหาราช จังหวัดเชียงใหม่ จนกระทั่งมรณภาพไป เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2553
จนเวลาล่วงเลยไป 4 ปี ในปี พ.ศ.2557 คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่นำโดยพระครูพินิจสารธรรม(ครูบาพรรณ) และคุณหญิงอมรา พวงชมพู ได้พร้อมใจกันลงมือก่อสร้างพระมหาธาตุเจดีย์โลกวิทูครอบเจดีย์องค์เก่าที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างไว้ ที่วัดบ้านโค๊ะพะโด๊ะ ตำบลแม่ตื่น อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสนองเจตนารมณ์ของหลวงปู่ โดยในครั้งนั้น คณะศิษยานุศิษย์ได้ไปร่วมกันประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์องค์พระมหาธาตุเจดีย์โลกะวิทู เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2557 ซึ่งมีพลเอกพิชาญเมธ อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 ในขณะนั้นได้เป็นประธานในพิธี ประธานในพิธี ในแต่ละปี มีผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสได้มาเที่ยวพระมหาธาตุเจดีย์โลกะวิทูเป็นจำนวนมาก เพราะสถานที่ดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีความสวยงาม อากาศเย็นตลอดทั้งปี สังเกตจากกิ่งไม้นั้น จะพบว่า มีต้นเฟินท์เกาะตามกิ่งไม้ อยู่เป็นจำนวนมาก แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ อุณหภูมิเฉลี่ยในหน้าหนาวประมาณ 7-15 องศาเซลเซียล ท่านสามารถสัมผัสอากาศหนาวเย็นและกลางเต็นท์เพื่อรับชมพระอาทิตย์ขึ้น-ลง รับลองว่ามาที่นี้แล้วจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน หลังจากนั้น ขากลับได้แวะเยี่ยมหน่วยจัดการต้นน้ำดอยเปเปอร์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี และรับฟังปัญหาต่างๆ พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการนำไปพัฒนาต่อไป